Tag: DA Ban Ban Team

  • ผู้ชนะ 10 คิด

    ผู้ชนะ 10 คิด

    เมื่อ 10 กว่าปี มาแล้ว ตอนสมัยอยู่สืบภาค 8 กับ พี่ยาว (พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์) ได้มีโอกาส เรียนรู้เกี่ยวกับ แนวคิด 10 มิติ จากการฝึกอบรม Detective Team ของสืบภาค 8 เมื่อได้มีโอกาสมาทบทวน รู้สึกว่าน่าจะมีประโยชน์กับทีมงานนักสืบ จึงขอเอามาเสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้

    การคิด 10 มิติ เป็นหนังสือชุด ชื่อ ผู้ชนะ 10 คิด ที่เขียนโดย ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ เป็นการคิดที่ช่วยให้มองเห็นความคิดในหลากหลายด้าน และยังนำเราไปพัฒนาความคิดในแต่ละด้านให้เราได้คิดเป็นมากขึ้น มาดูกันว่า การคิด 10 มิติ มีอะไรกันบ้าง

    1. การคิดเชิงวิพากย์ (Critical Thinking) 

    ความตั้งใจที่จะพิจารณาตัดสินเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยการไม่เห็นคล้อยตามข้อเสนออย่างง่ายๆ แต่ตั้งคำถามท้าทาย หรือโต้แย้งสมมติฐาน และข้อสมมติที่อยู่เบื้องหลัง และพยายามเปิดแนวทางความคิด ออกลู่ทางต่างๆ ที่แตกต่างจากข้อเสนอนั้น เพื่อให้สามารถได้คำตอบที่สมเหตุสมผล มากกว่าข้อเสนอเดิม

    2.การคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical Thinking)

    หมายถึง การจำแนกแจกแจงองค์ประกอบต่างๆ ของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และหาความสัมพันธ์เชิงเหตุผล ระหว่างองค์ประกอบเหล่านั้น เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริง ของสิ่งที่เกิดขึ้น

    3.การคิดเชิงสังเคราะห์ (Synthesis-Type Thinking) 

    หมายถึง ความสามารถในการดึงองค์ประกอบต่างๆ มาผสมผสานเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้สิ่งใหม่ ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ

    4. การคิดเชิงเปรียบเทียบ (Comparative Thinking)

    หมายถึง การพิจารณาเทียบเคียงความเหมือน และ/หรือ ความแตกต่าง ระหว่างสิ่งนั้น กับสิ่งอื่นๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ สามารถอธิบายเรื่องนั้น ได้อย่างชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการคิด การแก้ปัญหา หรือการหาทางเลือดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

     5. การคิดเชิงมโนทัศน์ (Conceptual Thinking)

    หมายถึง ความสามารถในการประสานข้อมูลทั้งหมด ที่มีอยู่ เกี่ยวกับเรื่องหนึ่งเรื่องใด ได้อย่างไม่ขัดแย้ง แล้วนำมาสร้างเป็นความคิดรวบยอด หรือกรอบความคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น

    6. การคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative Thinking)

    หมายถึง การขยายขอบเขตความคิดออกไป จากกรอบความคิดเดิมที่มีอยู่ สู่ความคิดใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อค้นหาคำตอบที่ดีที่สุด ให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น

    7.การคิดเชิงประยุกต์ (Applicative Thinking)

    หมายถึง ความสามารถในการนำเอาสิ่งที่มีอยู่เดิม ไปปรับใช้ประโยชน์ในบริบทใหม่ ได้อย่างเหมาะสม โดยยังคงหลักการของสิ่งเดิมไว้

    8. การคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking)

    หมายถึง ความสามารถในการกำหนดแนวทางที่ดีที่สุด ภายใต้เงื่อนไขข้อจำกัดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าหาแกนหลักได้อย่างเหมาะสม เพื่ออธิบาย หรือให้เหตุผลสนับสนุนเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

    9.การคิดเชิงบูรณาการ (Integrative Thinking)

    หมายถึง ความสามารถในการเชื่อมโยงแนวคิด หรือองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าหาแกนหลักได้อย่างเหมาะสม เพื่ออธิบายหรือให้เหตุผลสนับสนุนเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

    10. การคิดเชิงอนาคต (Futuristic Thinking)

    หมายถึง ความสามารถในการคาดการณ์ ในอนาคต อย่างมีหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม

    ผู้เขียนคิดว่า น่าจะเป็นประโยชน์กับบรรดาเหล่านักสืบ ที่จะเอาไปปรับใช้กับการคิดในกระบวนการสืบสวนต่อไป

  • ฝึกพิมพ์ให้เร็วขึ้นต้องทำอย่างไร

    ฝึกพิมพ์ให้เร็วขึ้นต้องทำอย่างไร

    แน่นอนครับว่าการพิมพ์เร็วจะช่วยทำให้เราประหยัดเวลาลงได้อย่างมาก เราจะได้เอาเวลาไปทำสิ่งต่างๆ ได้เยอะขึ้น

    แต่จะทำยังไงให้พิมพ์เร็วได้ขึ้นละ ?

    “ตอบได้คำเดียวว่า ฝึกฝน”

    แนะนำ Web สำหรับเอาฝึกฝน monkeytype https://monkeytype.com/ เป็นเวบไซต์ ที่เอาไว้ฝึกฝน การพิมพ์ให้เร็วขึ้น

    การฝึกพิมพ์ให้เร็วขึ้นนั้นก็ถือเป็น Productivity Hard Skill ที่สามารถฝึกฝนได้และเห็นผลได้อย่างชัดเจน

    monkeytype.com — เป็นเว็บสำหรับฝึกพิมพ์ไวโดยเฉพาะ ข้อดีของมันก็คือ UI ดูสบายตา ใช้งานง่าย และมีโหมดที่ไว้สำหรับฝึกพิมพ์หลากหลาย เช่น พิมพ์แบบจำกัดเวลา (time mode) หรือแบบพิมพ์ตามจำนวนคำที่เราตั้งเอาไว้ (quota mode) เป็นต้น และยังสามารถ track คำที่เราพิมพ์ผิดบ่อยเพื่อฝึกเฉพาะคำนั้นได้ด้วย

    สามารถตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะพิมพ์ “ให้ได้สูงสุด กี่ words per minute (wpm)” ได้

    ทำยังไงให้พิมพ์เร็วได้ขึ้น

    ก่อนอื่นเลยครับ เลือกภาษาที่ต้องการฝึกก่อน จากนั้นก็มาที่ส่วนของการวางนิ้ว ต้องวางนิ้วให้ถูกตำแหน่งกันก่อน ถ้าสังเกตแป้นพิมพ์เกือบทุกแป้นดีๆ แล้วจะเห็นปุ่มเล็กๆ นูนตรงตัว F และ J ซึ่งนั่นก็คือตำแหน่งที่วางนิ้วชี้ทั้งสองนั่นเองครับ

    • โดยด้านซ้ายมือวางนิ้วชี้ -f นิ้วกลาง -d นิ้วนาง -s และนิ้วก้อย -a
    • ส่วนทางด้านขวามือนิ้วชี้ -j นิ้วกลาง -k นิ้วนาง -l และนิ้วก้อย-;
    • ส่วนนิ้วโป้งทั้งสองนั้นให้วางบน Spacebar ครับ

    สำหรับเทคนิคในช่วงแรกที่จะทำให้คุณพิมพ์ได้เร็วขึ้น ก็มีดังนี้ครับ

    1. ในการฝึกนั้นพยายามอย่ามองแป้นพิมพ์ ช่วงแรกๆอาจจะยังไม่ชิน แต่ถ้าฝึกบ่อยๆก็จะทำให้แม่นยำในการพิมพ์มากขึ้น จนไม่จำเป็นต้องมองแป้นพิมพ์อีกต่อไป และเมื่อแม่นยำมากขึ้นแล้วก็จะทำให้พิมพ์เร็วขึ้นครับ
    2. ช้าๆ แต่แม่นยำดีกว่าเร็วแต่ผิด อันนี้เป็นสิ่งที่หลายๆคนพยายามที่จะทำในช่วงแรกโดยการพิมพ์เร็วๆแต่ไม่มีความแม่นยำจึงทำให้ผิดและก็ต้องมาเสียเวลากด Backspace ซึ่งเมื่อเทียบแล้วมันช้ากว่าพิมพ์ช้าๆแต่แม่นยำครับ
    3. นั่งตัวตรงและข้อศอกวางมุม 90 องศา ซึ่งเป็นท่าที่เหมาะสมกับการพิมพ์เร็ว
    4. ปุ่ม shift ปุ่ม enter ปุ่ม backspace ใช้นิ้วก้อยกดเท่านั้น ปุ่ม shift กับ enter อาจจะไม่ยากเท่าไรนัก แต่ปุ่ม backspace นั้นยากเพราะอยู่ไกล พยายามฝึกบ่อยๆครับจะชินไปเอง
    5. พยายามวางตำแหน่งนิ้วที่ตำแหน่ง “asdf jkl;” ตลอดครับ

    เมื่อฝึกตามนี้แล้วประมาณ 2–3 สัปดาห์ก็จะทำให้การพิมพ์เร็วขึ้นกว่าเดิมมาก

    แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรละ ว่าพิมพ์เร็วแค่ไหน ?

    ก่อนอื่นต้องรู้คำว่า “wpm” ว่าคืออะไรก่อน

    wpm ย่อมาจาก words per minute หรือ คำต่อนาที เป็นการวัดว่าในหนึ่งนาทีนั้นพิมพ์ได้กี่คำ

    เมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว ความเร็วประมาณ 70–90 wpm ก็ถือว่าเร็วแล้วครับ แต่ถ้าหากต้องการที่จะพิมพ์ให้เร็วกว่า 100 wpm คีย์บอร์ดก็มีส่วนครับ

    และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ฝึกอย่างสม่ำเสมอ ครับ