ระดับความรู้ 6 ระดับ และข้อคิดจากหนังสือ Mindset : ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา

ทฤษฎีของบลูม (Bloom’s taxonomy): ระดับความรู้ 6 ระดับ

Bloom’s Taxonomy เป็นการจัดระดับความรู้ที่แบ่งออกเป็น 6 ระดับจากพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง โดยแต่ละระดับมีการใช้คำกริยาเฉพาะเพื่อแสดงถึงทักษะหรือการกระทำในระดับนั้น ๆ ดังนี้:

  1. จำ (Remember)
    • คำอธิบาย: การจำหรือระลึกถึงข้อมูลพื้นฐาน เช่น ข้อเท็จจริง คำจำกัดความ หรือหลักการต่าง ๆ
    • คำกริยา: จำ, รู้, ท่อง, ระลึก, แยกแยะ, จดจำ
    • ตัวอย่าง: นักเรียนจำวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ได้
  2. เข้าใจ (Understand)
    • คำอธิบาย: การเข้าใจความหมายของข้อมูลและสามารถแปลความหมายหรืออธิบายข้อมูลนั้น ๆ ได้
    • คำกริยา: อธิบาย, สรุป, บรรยาย, แปลความ, จัดเรียง, เปรียบเทียบ
    • ตัวอย่าง: นักเรียนอธิบายได้ว่าทำไมสงครามโลกครั้งที่สองจึงเกิดขึ้น
  3. ใช้ (Apply)
    • คำอธิบาย: การนำความรู้หรือข้อมูลที่ได้เรียนรู้ไปใช้ในสถานการณ์จริง
    • คำกริยา: ใช้, ประยุกต์, ปฏิบัติ, แก้ไข, ดำเนินการ, นำไปใช้
    • ตัวอย่าง: นักเรียนใช้สูตรคณิตศาสตร์ในการแก้โจทย์ปัญหา
  4. วิเคราะห์ (Analyze)
    • คำอธิบาย: การแยกแยะส่วนประกอบของข้อมูลและเห็นความสัมพันธ์หรือโครงสร้างของข้อมูล
    • คำกริยา: วิเคราะห์, แยกแยะ, ตรวจสอบ, วินิจฉัย, สำรวจ, สืบค้น
    • ตัวอย่าง: นักเรียนวิเคราะห์องค์ประกอบของเรื่องสั้นและวิจารณ์ว่าอะไรทำให้เรื่องนั้นน่าสนใจ
  5. ประเมินผล (Evaluate)
    • คำอธิบาย: การตัดสินหรือประเมินคุณค่าของข้อมูล วิธีการ หรือผลงาน โดยใช้เกณฑ์หรือมาตรฐานที่กำหนด
    • คำกริยา: ประเมิน, ตัดสิน, วิจารณ์, ให้คะแนน, เปรียบเทียบ, ตัดสินใจ
    • ตัวอย่าง: นักเรียนประเมินผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์และสรุปว่าได้ผลตามที่คาดหวังหรือไม่
  6. สร้างสรรค์ (Create)
    • คำอธิบาย: การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ โดยการรวมข้อมูลและความรู้ที่มีอยู่เข้าด้วยกันอย่างมีนวัตกรรม
    • คำกริยา: สร้าง, ออกแบบ, คิดค้น, วางแผน, ประดิษฐ์, พัฒนา
    • ตัวอย่าง: นักเรียนออกแบบโครงการวิจัยใหม่เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน

=======================================================

ตัวอย่างการใช้คำกริยาใน Bloom’s Taxonomy

  1. จำ (Remember): ท่องจำคำศัพท์ใหม่, รู้วันสำคัญทางประวัติศาสตร์
  2. เข้าใจ (Understand): อธิบายแนวคิดหลักของบทเรียน, สรุปเรื่องราวในหนังสือ
  3. ใช้ (Apply): ประยุกต์ใช้ทฤษฎีในการแก้ปัญหาจริง, ปฏิบัติตามขั้นตอนการทดลอง
  4. วิเคราะห์ (Analyze): วิเคราะห์เหตุผลของเหตุการณ์ทางการเมือง, แยกแยะส่วนประกอบของกลไก
  5. ประเมินผล (Evaluate): ตัดสินความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล, วิจารณ์ผลงานศิลปะ
  6. สร้างสรรค์ (Create): ออกแบบแอปพลิเคชันใหม่, สร้างบทประพันธ์ใหม่

=======================================================

7 ข้อคิดจากหนังสือ
Mindset : ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา


หนังสือที่ทำให้เป็นคุณในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม

  1. เมื่อคุณเข้าใจเรื่องกรอบความคิด ว่าคนเราสามารถที่จะเปลี่ยนและเติบโตขึ้นได้แม้เราจะไม่ได้ฉลาดที่สุด เราจะค้นพบโลกใบใหม่
  2. จริงๆ แล้ว คนที่มีกรอบความคิดแบบตายตัว (Fix mindset) คาดหวังความสามารถที่จะแสดงออกมาได้ด้วยตัวเอง ก่อนที่จะเรียนรู้ใดๆ เกิดขึ้น ซึ่งการคิดแบบนั้นทำให้เราคิดว่าเราไม่สามารถเรียนรู้อะไรใหม่ได้เลย
  3. ผู้ที่มีกรอบความคิดแบบพัฒนาได้ (Growth mindset) คือคนที่ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง และพร้อมเดินไปข้างหน้าเสมอ เราเปลี่ยนแปลงได้ เก่งขึ้นได้
  4. คนที่มีกรอบความคิดแบบตายตัว (Fix mindset) มักจะหนีปัญหา มากกว่ายอมรับและเผชิญหน้า
  5. คุณจะไม่ได้รับกรอบความคิดแบบพัฒนาได้ (Growth mindset) อยู่เฉยๆ หรือรอให้มันเข้ามา เราจะได้มาด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์และการเดินทางของชีวิต
  6. ในฐานะผู้นำที่มีกรอบความคิดแบบพัฒนาได้ (Growth mindset) พวกเขาเริ่มต้นจากความเชื่อในศักยภาพของมนุษย์และการพัฒนาทั้งของตนเองและของผู้อื่น
  7. การเปลี่ยนแปลงอาจเป็นเรื่องยาก แต่เราก็ไม่เคยได้ยินใครบอกว่ามันไม่คุ้มค่าเลย จงกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง

“ทุกบทเรียนผ่านคือการเติบโต
ไม่มีปัญหาไหนใหญ่เกินกว่าตัวเราจะแก้ไข”

Comments

Leave a comment