เทคนิคการสร้าง Second Brain

เพราะสมองเราไม่ได้มีไว้จำ แต่มีไว้สำหรับสร้างสรรค์ความคิด สร้างไอเดียใหม่ ๆ

หนังสือ Building A Second Brain ของ Tiago Forte เป็นหนังสือที่เรียบง่าย แต่เมื่ออ่านจบพบว่ามันทรงพลังมาก และปัจจุบัน ก็มีเล่มแปลให้สามารถหาอ่านได้แล้ว

What is Second Brain

สมองของคนเราถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างสรรค์ไอเดีย ความคิดใหม่ ๆ แต่มันไม่สามารถจำทุกอย่างในชีวิตเราได้หมด เราเลยจะต้องหาวิธีการในการเอาสิ่งที่สมองเราไม่สามารถจดจำได้หมดไปเก็บไว้ใน

Humans are now knowledge workers

เพราะปัจจุบันมนุษย์คือ Knowledge workers

ในแต่ละวัน เราใช้เวลาไปสำหรับในการค้นหาข้อมูลเพื่อเอาข้อมูลมาทำงาน เราใช้เวลาอยู่กับข้อมูลตลอดเวลา ค้นหาข้อมูล, ดู Youtube, อ่านหนังสือ, อ่านบทความ, อ่านโพสต์, ฟัง Podcast และอีกมากมาย

คำถามคือ เอาเจอข้อมูลที่เอาไปใช้ประโยชน์ หรือเอาไปใช้งานได้จริงเท่าไหร่

จริง ๆ แล้ว เรื่อง Second Brain ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในอดีตเราต่างก็เคย มี Second Brain กันเกือบจะทุกคน โดยเฉพาะบุคคลที่มีชื่อเสียงในด้านต่าง ๆ แต่ Second Brain ของพวกเขาจะเป็น Commonplace book เป็นสมุดจดโน้ตที่ผู้คนใช้เขียนไอเดีย ความคิด ข้อเสียของ Commonplace book คือ เปียกขาดชำรุด สูญหายได้ง่าย และเมื่อเขียนจนหมดเล่มแล้ว ก้ไม่ค่อยจะมีใครหยิบมาเปิดอ่าน

Tiago Forte: มองว่า ปัจจุบันซึ่งเป็นยุคของอินเทอร์เน็ต Second Brain เราควรย้ายมาอยู่บน Digital Commonplace book ซึ่งมันสามารถนำเอาไอเดีย ความคิด ความรู้ต่าง ๆ มาใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา และเราเองก็ใช้มันอยู่แล้วโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เช่น Google Calendar app หรือ Reminder app

The power of writing thing down

ยิ่งเราเขียนจดโน้ตลง second brain มากขึ้นเท่าไหร่ เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของโน้ตต่าง ๆ ได้มากเท่าไหร่ value ของมันจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา

Second Brain Superpower

  1. ทำให้ไอเดียจับต้องได้มากขึ้น เป็นรูปธรรม — การเขียนความคิดทำให้สิ่งที่อยู่ในหัวเป็นรูปธรรมมากขึ้น ช่วยให้คิดอย่างชัดเจน และใช้ความคิดคิดเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. เชื่อมโยงความคิด ไอเดีย ระหว่างกันได้ — ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากการเชื่อมโยงความคิดเข้าด้วยกัน จนทำให้ค้นพบไอเดียใหม่ ๆ
  3. เป็นพื้นที่ในการบ่มเพาะความรู้ —ความคิดของเราเมื่อเวลาผ่านไปก็จะยิ่งเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน (เหมือนไวน์ยิ่งบ่มไว้นานยิ่งอร่อย)
  4. ทำให้มีมองมองคมชัดมากขึ้น — Second Brain ช่วยให้เราได้ใช้เวลากับการคิด ลงมือทำ มากกว่านึก หรือจำ และหลาย ๆ ครั้งที่เรากำลังต้องการไอเดียแต่นึกไม่ออก ไม่ได้เป็นเพราะเราไม่เก่ง ไม่สร้างสรรค์ เราอาจจะยังไม่มีวัตถุดิบ(ข้อมูล ความรู้) เพียงพอ

จริง ๆ second brain ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในทางวิชาการเรียก concept นี้ว่า personal knowledge management (PKM)

Remembering >> Connecting >> Creating

The CODE Method

Tiago เสนอ CODE method สำหรับสร้าง digital second brain เป็น 4 ขั้นตอนง่าย ๆ สรุปออกมาได้ดังนี้

  • Capture – เก็บข้อมูลใหม่ที่มีประโยชน์กับชีวิตเรา
  • Organize – จัดเรียงข้อมูลตาม actionability เพื่อนำไปใช้งาน (PARA method)
  • Distill – จดโน้ตสรุป สกัดไอเดียสำคัญ สรุปใจความสำคัญออกมา
  • Express – แบ่งปัน แชร์สิ่งที่เราเรียนรู้มาให้กับผู้อื่น เพราะข้อมูลจะกลางเป็นความรู้ก็ต่อเมื่อเอามันไปใช้
Source: Thiago Forte

จาก Capture → Express คือการเดินทางที่เปลี่ยนตัวเองจาก consumer of information เป็น creator อย่างแท้จริง

เราสร้าง Second Brain ไว้ให้ใคร? ตัวเอาเองในอนาคต ตัวเราเองในอนาคตจะเป็นใครใช้ประโยชน์จาก Second Brain ที่เราสร้างไว้

1. Capture

ไม่ใช่ทุกข้อมูลที่มีจะมีประโยชน์เท่ากันหมด หน้าที่ของเราคือ capture เฉพาะส่วนที่มีประโยชน์กับเรา โดยเราจะต้องตอบคำถามเหล่านี้

  • Does it inspire me? มันสร้างแรงบันดาลใจให้เรารึป่าว?
  • Is it useful? มันมีประโยชน์กับเราไหม?
  • Is it personal? เป็นสิ่งที่เรากำลังคิด กำลังนึกรึป่าว? ตอบโจทย์เราไม่
  • Is it surprising? รู้สึกตื่นเต้น เซอร์ไพรส์ไหม?

2. Organize

Thiago ได้คิดค้นวิธีการจัดเก็บข้อมูลเป็น 4 หมวดหมู่ง่าย ๆ ชื่อว่า PARA method โดยเน้นที่การทำไปใช้ในชีวิตเราเป็นหลัก

  1. Project (โปรเจกต์): งานระยะสั้นทั้งเรื่องงานหรือชีวิตส่วนตัวที่ทำด้วยเป้าหมายบางอย่าง
  2. Area (หน้าที่): ความรับผิดชอบระยะยาวที่ต้องคอยเอาในใส่อย่างต่อเนื่อง
  3. Resource (ทรัพยากร): หัวข้อหรือความสนใจที่อาจมีประโยชน์ในอนาคต
  4. Archive (คลังเก็บ): ข้อมูลใน 3 หมวดข้างต้นที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว

3. Distill

To attain knowledge, add things every day. To attain wisdom, remove things every day.

— Lao Tzu, ancient Chinese philosopher

“เพื่อครอบครองความรู้ เพิ่มสิ่งนั้นทุก ๆ วัน เพื่อครอบครองปัญญา ตัดสิ่งที่มีอยู่ออกทุก ๆ วัน”

การที่เราอ่านหนังสือหรือบทความสิ่งที่จะช่วยให้เราจำได้ก็คือ “การกลั่นข้อมูลออกมาให้เป็นภาษาของเราเอง” หาแก่นความรู้ ย่อยไอเดียให้กลายเป็นภาษาของเราเอง

Distill คือ การกลั่นสิ่งที่เราพบเจอ ออกมาเป็นคำพูดของตัวเอง ความรู้ต้องผ่านการย่อย ปรับแต่งเพื่อเปลี่ยนเป็น asset ที่มีคุณค่า

วิธีการ Distill ก็คือการทำ “Progressive Summarization”

  • Layer 0: แหล่งที่มาของข้อมูลจากต้นฉบับ เช่น website หนังสือ บทความ
  • Layer 1: เนื้อหาส่วนสำคัญที่นำมาใส่โปรแกรมการจดบันทึกของเรา
  • Layer 2: ใส่ ตัวหนา กับเนื้อหาที่เราคิดว่าสำคัญ (เวลาที่กลับมาอ่านโน้ต)
  • Layer 3: คัดใจความสำคัญจาก ตัวหนา และใส่ Highlight
  • Layer 4: สรุปเป็นข้อ ๆด้วยคำพูดของเราเอง และเอาไว้บนสุดของโน้ต
วัวกระทิง ของ Pablo Picasso

4. Express

คีย์หลักในการ express ก็คือ จดจำปะติดปะต่อเรื่องราว เขียนออกมาในภาษาของเรา สร้างระบบจัดการความรู้ที่ใช้งานง่าย ลดความซ้ำซ้อน

Express คือ การที่เราไม่รอจนให้ทุกอย่างให้พร้อมก่อนที่แชร์สิ่งที่คุณรู้ให้ผู้อื่น แชร์ออกไปบ่อยขึ้น แม้เป็นเรื่องเล็ก ๆ เพื่อได้รับ feedbacks หรือมุมมองอื่น ๆมาพัฒนาความคิดเราต่อไป

Intermediate Packets

โน้ตที่เราจะเอาไปจด blog มันไม่ควรจะยาวมาก มันควรจะสั้น ผ่านการกลั่นกรองมาแล้ว

Thinking Small จะมาจากหลายๆ ศาสตร์ การจะลงมือทำงานชิ้นใหญ่ ๆ มันเกิดมาจากที่เราเอาส่วนเล็กๆ มาประกอบร่างกัน และการจดโน้ตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์เฟอร์เฟ็ก

ทุกอาชีพมักจะมี “กระบวนการ” ก่อนที่จะสร้างสรรค์ผลงานออกมา เห็นได้ว่ามี “Prototype” เวลาสร้าง Product, “Demo” เพลงของศิลปิน

สรุปการฝึก Express บ่อย ๆ ในรูปของ Intermediate Packets ช่วยเพิ่ม Productivity โดยรวมของเราในตอนนี้ และอนาคตได้ด้วย เหมือนกับการสร้างตึกที่เรามี ฐานที่แข็งแรง เป็นการค่อย ๆสะสม Knowledge Assets ที่พร้อมใช้งานทุกเมื่อนั่นเอง

Thiago Forte ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้ทำให้เห็นว่าการทำ Personal Knowledge Management หรือการจัดทำระบบจัดการความรู้ของตัวเรา มันเจ๋งมาก ทั้งช่วยให้เราจำข้อมูลสำคัญได้ เชื่อมต่อความคิดจนเกิดเป็นไอเดียใหม่ ๆ และการสร้างผลงานสู่โลกภายนอก

เราจะสร้าง Second Brain ของตัวเองอย่างไร?

Second Brain คือระบบหรือ system ไม่ใช่แค่ software ตัวใดตัวหนึ่ง แต่เกิดจากการใช้หลายๆเครื่องมือร่วมกัน หลัก ๆ จะมี 4 apps

  • Calendar
  • To-Do
  • Note
  • Read-Later App

หลายคนเข้าใจผิดว่าใช้แค่ notetaking app อย่าง Notion แค่แอปเดียวก็สร้าง second brain ได้แล้วไม่ใช่นะครับ ในการสร้าง Second Brain เราจำเป็นจะต้องประยุกต์แอปหลาย ๆ

เตรียมพบกับ เทคนิค และวิธีการใช้งาน Notion...

Comments

Leave a comment